วันนี้ "ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304. >

โรงเรียนบ้านนาศรีนวล การสอบ ONET- RT มีคะแนนเฉลี่ยรวมสูงกว่าระดับประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย

วันศุกร์ที่9 มิถุนายน 2566 ผู้บริหาร คณะครูโรงเรียนบ้านนาศรีนวล เข้าร่วมประชุม รับฟังนโยบายจากผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา


 



และรับมอบเกียรติบัตรจากนายทวี ทะนอก ผอ.สพป.บร เขต 1 การสอบ ONET มีคะแนนเฉลี่ยรวมสูงกว่าระดับประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย




กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเกียรติบัตรคะแนน RT สูงกว่าระดับประเทศในงานผอ.เขตพบเพื่อนครู อำเภอลำปลายมาศ ณ หอประชุม โรงเรียนลำปลายมาศ
 
 โรงเรียนบ้านนาศรีนวล เป็นสนามสอบการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน O-net ประจำปีการศึกษา 2565
วันอาทิตย์ที่11กุมภาพันธ์ 2566 โรงเรียนบ้านนาศรีนวล เป็นสนามสอบการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน O-net ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียน ขอขอบคุณคณะกรรมการทุกท่าน คณะครูและข้าราชการศึกษาทุกโรงเรียน นักเรียนผู้เข้าสอบทุกคน ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการทดสอบในครั้งนี้ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 



วันศุกร์27มกราคม2566นาง ลำปาง มุ่งดี ผู้ใหญ่บ้านชุมชนบ้านนาศรีนวลหมู่7ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบล  ตำบลบุโพธิ์อำเภอลำปลายมาศจังหวัดบุรีรัมย์ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) เป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2536 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจ และทำให้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรต่าง ๆ ที่มีอยู่ในประเทศไทย ก่อให้เกิดกิจกรรมเพื่อให้มีการร่วมคิด ร่วมปฏิบัติที่นำผลประโยชน์มาถึงประชาชนชาวไทย ตลอดจนให้มีการจัดทำระบบข้อมูลทรัพยากร ให้แพร่หลายสามารถสื่อถึงกันได้ทั่วประเทศทั้งนี้สืบเนื่อง มาจากสายพระเนตรอันยาวไกลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่เมื่อครั้งปี พ.ศ. 2503 ที่ทรงมีพระราชดำริให้อนุรักษ์ต้นยางนา และทรงให้รวบรวมพืชพันธุ์ไม้ของภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศปลูกไว้ในสวนจิตรลดา โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ
ฯ จึงเป็นโครงการที่เกิดขึ้นเพื่อสนองแนวพระราชดำริ และสืบสานพระราชปณิธานแห่งพระองค์ โดยปรากฏในรูปแบบกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วยกิจกรรมปกปักทรัพยากรในพื้นที่ป่าธรรมชาติ การสำรวจรวบรวมทรัพยากรที่มีแนวโน้มว่าใกล้สูญพันธุ์ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม การนำทรัพยากรที่รวบรวมเพาะปลูก และรักษาในพื้นที่ที่เหมาะสมทางกายภาพ และปลอดภัยจากการรุกราน การอนุรักษ์ และใช้ประโยชน์ทรัพยากร โครงการศึกษาประเมินทรัพยากรในด้านต่าง ๆ ให้ทราบองค์ประกอบ คุณสมบัติ และการใช้ประโยชน์พืชพรรณ การจัดทำระบบข้อมูลทรัพยากรด้วยคอมพิวเตอร์ การวางแผน และพัฒนาทรัพยากรระยะยาว 30 – 50 ปี และกิจกรรมการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ ทรัพยากรแก่กลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ได้แก่ เยาวชน บุคคลทั่วไป
ทั่วไป ให้มีความเข้าใจ ตระหนักในความสำคัญเกิดความปิติ และสำนึกที่จะร่วมมือร่วมใจกันอนุรักษ์ พืชพรรณของไทยให้คงอยู่เป็นทรัพยากรอันทรงคุณค่าประจำชาติสืบไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ที่เกี่ยวกับ “ปัจจัยสี่” อันเป็นพื้นฐานหลักในการดำรงชีวิตของมนุษย์ จึงนับได้ว่าพันธุ์ไม้เหล่านี้มีความผูกพันกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยมาช้านานนับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตามเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ประโยชน์ที่เคยได้รับจากพรรณพืชอาจแปรไปตามสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ความต้องการของสังคม

และผู้บริโภค การสำรวจค้นคว้า และวิจัยตามหลักวิทยาการสมัยใหม่เกี่ยวกับพฤกษศาสตร์ ดังที่โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ดำเนินการอยู่ในขณะนี้จึงสามารถทำให้คนไทยได้ทราบถึงคุณประโยชน์ของพืชพรรณหลายชนิดซึ่งบางชนิดเป็นที่รู้จักแพร่หลาย มีการนำมาใช้ประโยชน์แต่ขาดการดูแลรักษา จนปริมาณลดลง และเกือบสูญพันธุ์จากถิ่นกำเนิดพืชบางชนิดมีมาช้านาน แต่มิได้เป็นที่ล่วงรู้ถึงคุณประโยชน์ จนอาจถูกละเลย หรือถูกทำลายไปอย่างน่าเสียดายความเป็นมาของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
 

จังหวัดบุรีรัมย์     พันจ่าโททวี พิมพ์อุบล นายอำเภอลำปลายมาศ งานประเพณีสู่ขวัญข้าวและงานของดีอำเภอลำปลายมาศประจำปี 2566
 วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2566เมื่อ เวลา 09.00 น. พันจ่าโททวี พิมพ์อุบล นายอำเภอลำปลายมาศ พร้อมด้วย นายกกิ่งกาชาดอำเภอลำปลายมาศ หัวหน้าส่วนราชการ กำนันผู้ใหบ้าน

 คณะกรรมการและสมาชิกกิ่งกาชาดอำเภอลำปลายมาศ ปลัดอำเภอ และเจ้าหน้าที่ที่ทำการปกครองอำเภอลำปลายมาศ ร่วมพิธีสักการะขอพรพระชัยมงคล - เจ้าที่ ประจำที่ว่าการอำเภอลำปลายมาศ และพิธีสักการะรัชกาลที่ 5  เพื่อบอกกล่าวการจัดงานประเพณีสู่ขวัญข้าวและงานของดีอำเภอลำปลายมาศประจำปี 2566 ณ ที่ว่าการอำเภอลำปลายมาศ





                                                    




 


จังหวัดบุรีรัมย์    6 หมู่บ้านได้ร่วมมือร่วมใจทอดกฐินสามัคคีของชุมชนระหว่างวันที่25ถึง26ตุลาคม2565(ณ .วัดเวฬุวันบ้านตะไก้ตำบลบุโพธิ์อำเภอลำปลายมาศจังหวัดบุรีรัมย์

 


 




วัดเวฬุวันบ้านตะไก้ตำบลบุโพธิ์อำเภอลำปลายมาศจังหวัดบุรีรัมบ์ 6 หมู่บ้านได้ร่วมมือร่วมใจทอดกฐินสามัคคีของชุมชนในวันที่ระหว่างวันที่25ถึง26ตุลาคม2565จึงขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมทอดกฐินร่วมกันประธานฝ่ายสงฆ์ พระอาจารย์สุทิน มหาบฺญโญ รักษาการเจ้าอาวาส วัดเวฬุวัน บ้านตะไก้
ประธานฝ่ายฆราวาส 6ชุมชนตำบลบุโพธิ์อำเภอลำปลายมาศจังหวัดบุรีรัมย์
สวาท เครือพิมาย ผู้สื่อข่าว  ข่าวออนไลน์บ้านผือ บ้านผือทีวีนิวส์ รายงาน

พิธี  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการระดมทุนนำมาสมทบกองทุนแม่ของแผ่นดิน นำมาใช้ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด  รวมทั้งแก้ปัญหาของชุมชน/หมู่บ้าน  และใช้เป็นค่าใช้จ่ายที่เป็นประโยชน์แก่ส่าธารณะ  สนับสนุนให้ทำความดีตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อชุมชน/หมู่บ้านพึ่งตนเองได้ในระยะยาว 



ยาว   กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย นางอำพร  จันทกูล สมาชิกสภาจังหวัดสระบุรีเขต 1   นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าคล้อ  พัฒนาการอำเภอ  เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน  ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านถ้ำเต่า  คณะกรรมการพัฒนาสตรี และสมาชิกกองทุนแม่ของแผ่นดิน  โดยประธานให้โอวาทและมอบแนวทางในการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้คณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดิน นำไปขับเคลื่อนปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม

 
 
วันนี้ (26ก.ค.65) เวลา 13.00 น. นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา "การสร้างการรับรู้เพื่อเตรียมความพร้อมสนับสนุนและการจัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยว รองรับการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ.2569" ตามโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูมิภาค ภายใต้การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี พ.ศ.2569  โดยมี นายวิเชียร ขาวขำ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย รองประธานกรรมการหอการค้าไทย/ประธานหอการค้าภาคอีสาน/ประธานอาวุโสหอการค้าจังหวัดอุดรธานี นายกัณฑ์พงศ์ สุระวรรณวิจิตร ประธานคณะกรนมการการค้าปลีกค้าส่ง หอการค้าจังหวัดอุดรธานี นายดนัยธรรม ตั้งกิจพาณิชย์ กรรมการ YEC หอการค้าจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ร่วมงาน ที่ห้องประชุมสยามมนต์ตราคอนเวนชัานฮอลล์ โรงแรมสยามแกรนด์ อุดรธานี




โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้กล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ "การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ.2569 กับบริบทการพัฒนาจังหวัดอุดรธานีในอนาคต" โอกาสจากการจัดงานพืชสวนโลก ทั้งในด้านการท่องเที่ยว ภาคแรงงาน ศักยภาพของจังหวัดและการเชื่อมโยงสู่อนุภูมิภาค
หลังจากนั้น นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ได้ให้ข้อมูลถึง "บทบาทและหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานีกับการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี" ทั้งในด้านการบริหารงบประมาณเพื่อสนับสนุนการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก





การบริหารจัดการวางแผนพื้นที่หลังสิ้นสุดงาน การจัดเตรียมปลูกต้นไม้เพื่อให้ทันกับการจัดงานในอีก 4 ปีข้างหน้า โดยขอความร่วมมือหน่วยงาน องค์กรในจังหวัดทุกแห่ง 1.ดาวน์โหลดรูปภาพงานพืชสวนโลกตามที่กำหนดติดตั้งหน้าจอคอมพิวเตอร์ขององค์กร 2.จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ติดตั้งบริเวณด้านหน้าสำนักงาน โดยใช้รูปแบบเดียวกันทั้งหมด เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานพร้อมกันทั้งจังหวัด 3.การเตรียมปลูกต้นไม้ และ 4.การสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน





นอกจากนี้ในการประชุมยังมีการให้ข้อมูลในหัวข้อ "Internation Association of Horticultural (AIPH) ได้ประกาศคัดเลือกอย่างเป็นทางการให้ปนะเทศไทยเป็นเจ้าพาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ.2569 (ระดับ B) ภายใต้แนวคิด Diversity of life : Connecting people, Water and plants for sustainable living (วิถีชีวิต สายน้ำ และพืชพรรณ) โดย นายศักดา เกตุแก้ว ที่ปรึกษาศูนย์เตรียมความพร้อมการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี พ.ศ.2569 การให้ข้อมูล "ทีมาและความสำคัญของงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569" และเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดอุดรธานี โดย นายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิ่น หัวหน้าสำนักงานจังหวัดอุดรธานี การให้ข้อมูล "แนวคิดการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ.2569" ในบริบท ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดย เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุดรธานี และเกษตรจังหวัดอุดรธานี และแลกเปลี่ยนทางวิชาการ "องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับการจัดทำแผนพัฒนาเพื่อเตรียมความพร้อมสนับสนุนการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 ในมิติหน้าที่การส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดอุดรธานีในอนาคต โดย ท้องถิ่นจังหวัดอุดรธานี

ประกาศเตือนภัยฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยตอนบน ครั้งที่6 ประจำวันที่ 20/07/65 เวลา 11:53น.

'หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ' บริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง

มีแนวโน้มเคลื่อนตัวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งจะเคลื่อนผ่าน ลาวตอนกลาง และภาคอีสานด้านตะวันออกของไทยในจังหวัด อุบลราชธานี และเคลื่อนตัวผ่านภาคอีสานตอนล่างทั้งหมด ภาคตะวันออกทั้งหมด ภาคกลางตอนล่าง และภาคเหนือตอนล่าง รวมถึงตอนบนด้านตะวันตก ในช่วงวันที่ 20-23กรกฎาคม นี้

ประกอบกับและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน และร่องมรสุมที่พาดผ่านไทยตอนบนจะมีกำลังแรง
ส่งผลจะทำให้พื้นที่ของประเทศไทยตอนบนโดยเฉพาะในพื้นที่ๆหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนผ่าน จะมีฝนตกชุก ตกหนักหนาแน่นหลายพื้นที่ สำหรับพื้นที่ไหนที่มีอากาศร้อนในตอนกลางวันที่ผ่านมา ต้องระวังลมกระโชกแรง ในช่วงดังกล่าวนี้ ทั้งนี้อิทธิพลของหย่อม ประกอบกับร่องมรสุมที่พาดผ่านไทยตอนบน จะเริ่มมีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 20-23กรกฎาคม นี้

ซึ่งจังหวัดที่จะได้รับผลกระทบมีดังนี้ ในช่วงวันที่ 20กรกฎาคม ตั้งแต่เวลา 14:00น. เป็นต้นไป (จังหวัดไหนตัวอักษรสีเข้ม เสี่ยงฝนหนัก และลมกระโชกแรง ทั้งนี้เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีอากาศร้อนในช่วงที่ผ่านมา)

ภาคเหนือ : แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร แพร่ น่าน สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์
ภาคอีสาน : เลย ชัยภูมิ หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี สกลนคร นครพนม บึงกาฬ กาฬสินธิ์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี
ภาคกลาง : นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี สระบุรี อยุธยาฯ อ่างทอง ปทุมธานี กรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี
ภาคตะวันออก : นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว จันทบุรี ตราด ชลบุรี ระยอง
ภาคใต้ตอนบน : เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา นครศรีธรรมราช

🔴 = เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง หลายพื้นที่
🟠 = เสี่ยงฝนตกปานกลาง ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง บางพื้นที่

โปรดติดตามการอัพเดทการประกาศเตือนภัย ครั้งต่อไป เวลา 18:00น. วันที่20/7/65

*---------------------*
หมายเหตุ : อ้างอิงผลการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักจากแบบจำลอง ECMWF โดยทับซ้อนแผนที่ประเทศไทยรายจังหวัด
.
.
ปล...ผลการวิเคราะห์อาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริง เนื่องจากสภาวะอากาศมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และมีปัจจัยตัวแปรควบคุม หลายอย่าง หากท่านต้องการทราบสภาวะอากาศความเป็นจริงช่วงนั้นๆ รอการอัพเดทผลการวิเคราะห์เรดาร์ตรวจกลุ่มฝนและทิศทางอีกครั้ง ซึ่งทางทีมงานจะทำการโพสเตือนทุกๆ 4ชั่วโมง ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เวลา 14:00น. เป็นต้นไป
 
 
 
 
ขนส่งจังหวัดอุดรธานี เข้มตรวจรถโดยสารสาธารณะและผู้ขับขี่ สร้างความมั่นใจแก่ผู้เดินทาง ไม่พบการกระทำที่ผิดกฎ ระเบียบแต่อย่างใด
     วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม 2565 สำนักงานขนส่งจังหวัดอุดรธานี จัดชุดผู้ตรวจการและเจ้าหน้าที่ ออกปฏิบัติงานตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ ตามโครงการตรวจเข้มข้นรถโดยสารสาธารณะ Checking Point เพื่อการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ




อย่างปลอดภัย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ณ จุด Checking Point จุดที่ 12 ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอุดรธานี แห่งที่ 1 ผลการดำเนินการ ดังนี้    1. ตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะ รถโดยสารประจำทาง จำนวน 33 คัน ผ่าน 33 คัน   2. ตรวจความพร้อมพนักงานขับรถ จำนวน 33 ราย ผ่าน 33 ราย
 
ข่าวแนะนำ
 
 
 
 
นายวิมล สุระเสน นายอำเภอบ้านผือ เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมจิตอาสาภัยพิบัติ โดยการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนราษฎรผู้ประสบอัคคี
 
วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม 2565 เมื่อเวลา 10.00 น.  นายวิมล สุระเสน นายอำเภอบ้านผือ เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมจิตอาสาภัยพิบัติ โดยการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนราษฎรผู้ประสบอัคคีภัย




ราย นายอนุศักดิ์  ทองเคน  เลขที่ 233 ม.7 ต.หนองแวง อ.บ้านผือ  เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2565 เวลา 11.45 น. โดยทำการรื้อถอนบ้านชั้น 2  รวมทั้งเก็บซากปรักหักพัง เพื่อปรับพื้นที่ให้พร้อมสำหรับการปรับปรุงบ้า






น พร้อมทั้งมอบสิ่งเครื่องใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน และมอบเงินช่วยเหลือจากสถานศึกษาและประชาชนในพื้นที่  โดยมี ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรบ้านผือพร้อมจิตอาสา ผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง  สถานศึกษาในพื้นที่ ปลัดอำเภอ สมาชิก อส. และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.ในหมู่บ้านร่วมกิจกรรมฯ  ณ บ้านนางาม หมู่ที่ 7 ตำบลหนองแวง อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี


 
 
อบจ.อุดรธานี จัดโครงการอบรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร


อบจ.อุดรธานี จัดโครงการอบรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อส่งเสริมอาชีพของประชาชนในจังหวัดอุดรธานี ประจำปีงบประมาณ 2565

วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 เวลา 09.30 น. อบจ.อุดรธานี จัดโครงการอบรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อส่งเสริมอาชีพของประชาชนในจังหวัดอุดรธานี ประจำปีงบประมาณ 2565 ณ หอประชุมโรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 1 ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมี นายประเทือง เพชรโรจน์ ปลัด อบจ.อุดรธานี รักษาราชการแทนนายก อบจ.อุดรธานี เป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมด้วย นายยิ่งใหญ่ กองทอง ส.อบจ.อุดรธานี อ.เมือง เขต 9 กล่าวพบปะผู้เข้าร่วมการอบรม




การจัดโครงการครั้งนี้ได้รับการอนุเคราะห์จาก นายเลิศ รัตนชีวกร กรรมการผู้จัดการบริษัท ผลิตภัณฑ์อาหาร สุนี จำกัด เป็นวิทยากร และมีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 150 คน  อบจ. อุดรธานี ได้ตระหนักถึงปัญหาปากท้องของประชาชนในช่วงวิกฤติโควิด-19 จึงได้เกิดโครงการดังกล่าว เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน ได้มีการอบรมให้ความรู้ และส่งเสริมให้เป็นอาชีพ ลดภาระปัญหาด้านครัวเรือน และเห็นว่ามีประโยชน์ มีคุณค่าทางโภชนาการ ประชาชนที่เข้าร่วมจะได้นำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายในครอบครัว ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 การจัดอบรมได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน โควิด-19 อย่างเคร่งครัด


#จังหวัดอุดรธานี #อุดรธานี #อบจ.อุดรธานี #องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี #ท้องถิ่นอุดรธานี #ข่าวอุดรธานี #Udonthani
--------------------------------------
#ติดตามข่าวสารได้ที่
WWW.UDONPAO.GO.TH
FACEBOOK : องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี
INSTAGRAM : UDONTHANIPAO
TWITTER : องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี
YOUTUBE : ประชาสัมพันธ์ อบจ.อุดรธานี
#สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 042-244393

ข่าวแนะนำ

อนุมัติให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากโรคลัมปีสกีน

อนุมัติให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากโรคลัมปีสกีน
วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม 2565 เมื่อเวลา 13.30 น. นายวิมล สุระเสน นายอำเภอบ้านผือ  เป็นประธานประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติระดับอำเภอบ้านผือ ( ก.ช.ภ.อ.) เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจากโรคลัมปีสกิน ตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2564


 

อนุมัติให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากโรคลัมปีสกีน

 ซึ่งมีเกษตรกรในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 ราย  ได้แก่  1. นางนงพงา พิลากุล ม. 7 ต.โนนทอง วงเงิน 13,000 บาท 2. นางณาฏินี ศิริบรรพต  ม. 10 ต.หายโศก วงเงิน 22,000 บาท โดยมี นายประจวบศักดิ์ อารมณ์ ปลัดอาวุโสอำเภอบ้านผือ พร้อมด้วยปศุสัตว์อำเภอ, เกษตรอำเภอ, ประมงอำเภอ, สัสดีอำเภอ, ปลัดอำเภอ, นายก ทต.กลางใหญ่ และนายก อบต.หายโศก เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมอุสา-บารส ชั้น2 ที่ว่าการอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี

 
 

ข่าวแนะนำ

 
วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม 2565เมื่อ เวลา 09.30 ถึงเวลา 11.30 นอ  นายวิมล สุระเสน นายอำเภอบ้านผือ พร้อมด้วยปลัดอาสุโสอำเภอบ้านผือ

วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม 2565เมื่อ เวลา 09.30 ถึงเวลา 11.30 นอ  นายวิมล สุระเสน นายอำเภอบ้านผือ พร้อมด้วยปลัดอาสุโสอำเภอบ้านผือ  ปลัดอำเภอ และสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี เขตอำเภอบ้านผือ ได้ออกเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบถุงยังชีพ พร้อมของใช้ที่จำเป็น เบื้องต้น จำนวน 38 ชุด ช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบวาตภัยจากเหตุลมพายุพัดเมื่อ



 

 วันที่ 29 เมษายน 2565 เวลา 03.30 นอ ในพื้นที่ 4 ตำบล ได้แก่ตำบลเมืองพาน ตำบลจำปาโมง ตำบลบ้านผือ และตำบลหายโศก  มีราษฎรได้รับความเดือดร้อน 38 ครัวเรือน ซึ่งทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ดำเนินการสำรวจความเสียหายและอยู่ระหว่างเบิกจ่ายงบประมาณช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการแล้ว   โดยมี ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมดำเนินการ

 

ข่าวแนะนำ

 

 



สาวผาตั้ง กลับมาเยี่ยมบ้าน โชคร้ายฝนตกถนนลื่น รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า เจ็บ 5 เสียชีวิต 1 ราย

วันนี้ (30 เม.ย. 65) เวลา 06.40 น. พ.ต.ต.เนติพงษ์ จำนงนิตย์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย รับแจ้งอุบัติเหตุรถเก๋งชนเสาไฟฟ้า บนถนนมิตรภาพ (ท่าบ่อ-หนองสองห้อง) ฝั่งขาเข้าอำเภอท่าบ่อ บริเวณบ้านเดื่อ หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านเดื่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บและมีผู้เสียชีวิต หลังรับแจ้งได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย แพทย์เวรจากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ ,หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ ,หน่วยกู้ชีพองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเดื่อ ,หน่วยกู้ภัยร่วมใจอำเภอท่าบ่อ, หน่วยกู้ภัย 191 ,หน่วยกู้ภัยร่วมศรัทธาเวียงคุก, หน่วยกู้ภัยประจักษ์ ,หน่วยกู้ภัยประจักษ์จุดอำเภอโพธิ์ตาก พร้อมนำอุปกรณ์เครื่องตัดถ่างเนื่องจากมีผู้ที่ติดอยู่ภายในรถ

ที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง ยี่ห้อมาสด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กพ 8876 ฉะเชิงเทรา ชนอยู่กับเสาไฟฟ้าแรงสูง โดยสภาพด้านหน้ารถได้รับความเสียหาย ภายในรถมีผู้บาดเจ็บทั้งหมดภายในรถ 5 คน ทราบชื่อคือ 

1.นางสาวฐิติมา ภูสมศรี อายุ 34 ปี ที่อยู่ 164 หมู่ 5 ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง (คนขับ)

2.นางสาวบัวแก้ว บุปผาลา อายุ 34 ปี ที่อยู่ 167 หมู่ที่ 5 ตำบลคำด้วง อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง ที่ต้นขาซ้ายบวมช้ำ

3.นางสมจิตร์ ภูสมศรี อายุ 57 ปี ที่อยู่ 164 หมู่ที่ 5 ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย มีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง

4.ด.ช.ภาคิน ภูสมศรี อายุ 1 ปี 8 เดือน ที่อยู่  164 หมู่ที่ 5 ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ร่างกายได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง เบื้องต้นแพทย์ตรวจสอบพบได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำเข้าห้องฉุกเฉินในทันที

5.ด.ญ.อายุประมาณ 6 ปี (ไม่ทราบชื่อนามสกุล) ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายหลายแห่ง 

6.นายอดิศร ต๊ะหล้า อายุ 26 ปี ที่อยู่ 65/11 ตำบลหนองไผ่แก้ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี (เสียชีวิต) โดยมีแผลฉีกขาดที่บริเวณหน้าผากและขาซ้าย เสียชีวิตบริเวณเบาะข้างผู้ขับขี่ โดยร่างถูกบีบอัดจากแรงกระแทกติดอยู่ภายในรถเจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างออกมา


สอบถามนางสาวฐิติมา ภูสมศรี ผู้ขับขี่ทราบว่าตนเดินทางพร้อมครอบครัวมาจากจังหวัดชลบุรีเพื่อเดินทางกลับบ้านที่บ้านห้วยไซงัว ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย พอมาถึงที่เกิดเหตุจู่ๆรถได้เกิดเสียหลัก ลงข้างทางก่อนพุ่งชนที่เสาไฟฟ้า โดยทุกคนภายในรถบางคนก็หลับ ส่วนผู้เสียชีวิตคือนายอดิศร นั่งหลับอยู่ข้างๆตน ขณะที่ชนถูกแรงกระแทกอย่างรุนแรงทำให้เสียชีวิต ส่วนตนคาดเข็มขัดนิรภัยทำให้ได้รับบาดเจ็บไม่มาก


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียด โดยสันนิษฐานสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุน่าจะมาจากสภาพถนนที่ลื่นเนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักคืนที่ผ่านมาทำให้รถเสียการควบคุม ซึ่งจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง


กระบะขนกะหล่ำปลี ทำช่องลับ ยัดแรงงานพม่าอัดแน่นรถ หวิดขาดอากาศหายใจ

ตำรวจ สภ.พบพระ จังหวัดตาก สกัดจับรถกระบะคอกขนกะหล่ำปลี 2 คัน ดัดแปลงช่องลับ ซุกแรงงานชาวพม่า สภาพอัดแน่น หวิดขาดอากาศหายใจ

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 27 เมษายน 2565 พ.ต.อ.โอภาส คงเมือง รอง ผบก.ภ.จว.ตาก พร้อมด้วย พ.ต.อ.รัฐศรัณย์ เกตุสิงห์สร้อย ผกก.สภ.พบพระ สนธิกำลังฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดตรวจค้นยานพาหนะที่จุดตรวจความมั่นคงบ้านห้วยนกแล ถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง หมู่ที่ 9 ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เพื่อสกัดตรวจจับการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย

โดยเวลาต่อมา ได้มีรถยนต์กระบะจำนวนสองคันบรรทุกกะหล่ำปลี มาจนล้นคันรถ และขับติดตามกันมาด้วยความเร็วสูง จากอำเภอพบพระ มุ่งหน้าไปอำเภอแม่สอด และรถยนต์บรรทุกผักทั้งสองคันกำลังจะขับผ่านจุดตรวจบ้านห้วยนกแล เขตอำเภอพบพระ เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้รถทั้งสองคันหยุดเพื่อขอตรวจสอบ โดยการตรวจรถยนต์คันแรกเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิซิ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผค-6490 เพชรบูรณ์ ด้านหลังรถบรรทุกกะหล่ำปลีมาจนล้นคัน โดยมีผ้าใบสีดำคลุมอย่างมิดชิดโดยมีนายกฤษณ ทองมาก อายุ 25 ปี และนางสาวปริญญา หงส์ทอง อายุ 26 ปี นั่งโดยสารมาด้วย โดยทั้งสองมีอาการส่อพิรุธ เหงื่อแตกตัวสั่นแบบผิดสังเกต เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวลงจากรถพร้อมเข้าตรวจภายในกระบะรถ และพบช่องลับขนาดเล็ก ตรวจพบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย สัญชาติเมียนมา จำนวน 7 คน นั่งเบียดเสียดกันในสภาพเหงื่อแตกจากอากาศหายใจที่มีน้อย

 

ส่วนรถยนต์กระบะอีกคัน เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ผฉ-8782 นครสวรรค์ ด้านหลังบรรทุกกะหล่ำปลีมาจนเต็มคันรถ และมีผ้าใบปิดคลุมอย่างมิดชิด โดยมีนายสำเริง ทองมาก อายุ 56 ปีเป็นคนขับ และเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจที่ด้านท้ายกระบะรถ พบช่องลับพิเศษ ตรวจพบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายสัญชาติเมียนมา จำนวน 7 คน ซึ่งอยู่สภาพไม่แตกต่างกับรถคันแรก เจ้าหน้าที่จึงรีบช่วยเหลือนำตัวแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายทั้ง 14 คนที่กำลังหายใจยากลำบาก เนื่องจากหลบซ่อนตัวอยู่ในที่แคบและอยู่กับอากาศร้อนเป็นเวลานานออกจากช่องลับของรถยนต์ทั้งสองคัน พร้อมให้ความช่วยเหลือ มอบน้ำดื่มและนำตัวไปในพื้นที่อากาศที่ถ่ายเทจนแรงงานทั้ง 14 คนมีสภาพอาการที่ดีขึ้น ก่อนเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวแรงงานทั้งหมดและคนขับรถ พร้อมรถยนต์ของกลางนำไปสอบสวนขยายผลที่ สภ.พบพระ จังหวัดตาก

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายสำเริง คนขับรถที่ถูกตรวจจับ ยอมรับเป็นคนขับรถขนแรงงานต่างด้าวจริง โดยรับแรงงานต่างด้าวทั้งหมดมาจากชายแดนอำเภอแม่สอด และนำมาหลบซ่อนตัวในช่องลับรถยนต์ที่ดัดแปลงมาเป็นพิเศษและนำกะหล่ำปลีไปวางทับอำพรางหลายชั้นแล้วคลุมผ้าใบสีดำอำพรางอีกชั้นอย่างแน่นหนา เพื่อให้ยากต่อการรื้อค้นตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ และได้รับค่าจ้างในการขนเที่ยวละ 6,000 บาท โดยจะส่งแรงงานชุดนี้ลงที่ตัวจังหวัดตาก จากนั้นจะมีกลุ่มขบวนการมารับขนส่งต่อไปอีกทอดหนึ่ง แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน

ส่วนแรงงานทั้งหมดต้องจ่ายค่านายหน้าเป็นเงินสูงถึงคนละ 30,000 บาท โดยมีจุดหมายปลายทางที่หัวเมืองชั้นในรอบกรุงเทพมหานคร

 

ขณะที่ พ.ต.อ.โอภาส คงเมือง รอง ผบก.ภ.จว.ตาก หัวหน้าชุดจับกุมกล่าวว่า การจับกุมกลุ่มขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในครั้งนี้ เป็นนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ที่มุ่งเน้นให้ป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจากแนวชายแดนเข้าหัวเมืองชั้นใน ซึ่งผลการจับกุมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่คาดว่าทำเป็นขบวนการใหญ่ โดยกลุ่มขบวนการได้ใช้รถยนต์บรรทุกผักอำพราง ซึ่งการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามโดยเฉพาะการสืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการกลุ่มนี้มานาน จนสามารถจับกุมได้ยกแก๊ง ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสามคน ซึ่งเป็นคนขับรถนำพาแรงงานผิดกฎหมายในครั้งนี้ไปดำเนินคดีในข้อหาช่วยเหลือซ่อนเร้นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ส่งตัวดำเนินคดีที่ สภ.พบพระ ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้ง 14 คน ส่งตัวไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลการตรวจไม่พบผลแรงงานติดเชื้อโควิด-19 พร้อมส่งตัวไปดำเนินการตามกฎหมายพร้อมเร่งผลักดันออกนอกประเทศต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

 

 

 

 

 

 
ศจพ.อำเภอโนนสะอาด เดินหน้าจัดประชุมคณะกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อจัดทำแผนการให้ความช่วยเหลือ

  วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม 2565 เมื่อเวลา 09.30 น.  นายชวิศ  ป้องขันธ์ นายอำเภอโนนสะอาด ประธานศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอำเภอโนนสะอาด (ศจพ.อำเภอโนนสะอาด) พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ ตัวแทนทีมปฏิบัติการฯ และตัวแทนทีมพี่เลี้ยง ร่วมประชุมขับเคลื่อนการขจัดความยากจนฯ  พร้อมรับฟังปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน รวมถึง หาแนวทางวิธีการทำงานร่วมกัน โดยมีประเด็นสำคัญในการประชุมดังนี้รายงานผลการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนฯ อำเภอโนนสะอาด ดังนี้

   1. ครัวเรือนเป้าหมายจากระบบ TPMAP เป้าตั้งต้น 2 ครัวเรือน 4 คน พบปัญหาในมิติความเป็นอยู่ 1ครัวเรือน ส่งมอบให้กองทุนสวัสดิการหมู่บ้านดำเนินโครงการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และมิติด้านรายได้ จำนวน 2 ครัวเรือน ส่งมอบให้เกษตรอำเภอ, ปศุสัตว์อำเภอ สนับสนุนให้ความรู้การประกอบอาชีพเสริม
   2. ครัวเรือนที่เพิ่มเติมในระบบ TPMAP จำนวน 10 ครัวเรือน 39 คน พบปัญหาจำแนกรายมิติ ดังนี้
       1) มิติความเป็นอยู่ 7 ครัวเรือน 29 คน แยกเป็น สงเคราะห์ 1 ครัวเรือน พัฒนาได้ 6 ครัวเรือน ส่งมอบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น/กองทุนสวัสดิการหมู่บ้านพิจารณาโครงการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย
       2) มิติด้านรายได้ จำนวน 7 ครัวเรือน 20 คน แยกเป็น สงเคราะห์ 1 ครัวเรือน พัฒนาได้ 6 ครัวเรือน ส่งมอบเกษตร,ปศุสัตว์,พัฒนาชุมชน,ประมง ส่งเสริมให้ความรู้การประกอบอาชีพเสริม (เลี้ยงไก่พันธุ์ไข่,ปลูกผักสวนครัวสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร)



                3) มิติด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ จำนวน 1 ครัวเรือน 1 คน
       4) มิติด้านอื่น ๆ (ผู้ป่วยเรื้อรัง) จำนวน 1 ครัวเรือน 3 คน เป็นประเภทสงเคราะห์ ส่งมอบให้ภาคีพัฒนา(สาธารณสุขอำเภอ) ดำเนินการช่วยเหลือ
   3. ครัวเรือนเป้าหมายจากระบบ ThaiQM สำรวจแล้ว จำนวน 1,050 ครัวเรือน พบสภาพปัญหาความเดือดร้อน ดังนี้
     (-) ด้านที่อยู่อาศัย จำนวน 972 ครัวเรือน ส่งต่อภาคีพัฒนา (อปท.ในพื้นที่,พมจ.,สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัด) พิจารณาให้การช่วยเหลือ
     (-) ด้านน้ำดื่ม/น้ำใช้ จำนวน 320 ครัวเรือน มอบภารกิจให้ อปท.ในพื้นที่พิจารณาแก้ไขปัญหา
     (-) ด้านการศึกษา จำนวน 342 ครัวเรือน มอบภารกิจให้ กศน.อำเภอโนนสะอาด พิจารณาช่วยเหลือแก้ไขปัญหา
     (-) ด้านรายได้และอาชีพ จำนวน 616 ครัวเรือน มอบภารกิจให้ภาคีพัฒนา(เกษตร,ปศุสัตว์,ประมง,พัฒนาชุมชน,อปท.ในพื้นที่) บูรณาการให้การช่วยเหลือแก้ไขปัญหา
     (-) ด้านความปลอดภัย จำนวน 237 ครัวเรือน มอบภารกิจให้ปกครองอำเภอโนนสะอาด/สภ.โนนสะอาด บูรณาการช่วยเหลือแก้ไขปัญหา
     (-) ด้านกลุ่มเปราะบาง จำนวน 112 ครัวเรือน มอบภารกิจให้หน่วยงานสาธารณสุข พิจารณาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาการดำเนินกิจกรรมเป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด  ประชาสัมพันธ์โดย : สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานีมิตรภาพดีๆ ที่โนนสะอาดChange for Good ชาลิสา ชมภูราษฎร์ส.ปชส.อุดรธานี

 

ข่าวแนะนำ

 

 

 

 

 

ข่าวแนะนำ

 


ญาติผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรมหลังโดน ร.ต.อ.ไถเงินเติมน้ำมันรถพาผู้ต้องหาไปส่งฟ้องศาลญาติผู้ต้องหา ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากนายอำเภอบ้านผือ จ.อุดรธานี หลังโดนตำรวจยศ ร.ต.อ. พนักงานสอบสวน สภ.กลางใหญ่ รีดไถเงินเติมน้ำมันรถส่งผู้ต้องหา “ขับเสพ” ไปส่งฟ้องศาล แถมยังบังคับยืมเงินอ้างนำไปซื้อเบียร์ฝากอัยการ แต่พอไปทวงถามเงินกลับบ่ายเบี่ยง เพิกเฉย แถมยังโดนข่มขู่ซ้ำ จึงมาขอความเป็นธรรม เพราะแค่ประชาชนที่หากินด้วยการรับจ้าง ยังถูกขูดรีด และข่มขู่ หากปล่อยให้อยู่ในพื้นที่เกรงว่าจะได้รับอันตราย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันเสารฺที่ 29 เมษายน 2565 ที่ว่าการอำเภอบ้านผือ จ.อุดรธานี น.ส.สมภาร อินทนีย์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่164 หมู่ 8 ต.คำด้วง อ.บ้านผือ น.ส.ดาหวัน นาคูณ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 178 หมู่ 1 ต.คำด้วง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี และ น.ส.บัวเรียน วงษ์ดี อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176 หมู่ 8 ต.คำด้วง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี มายื่นหนังสือต่อนายวิมล สุรเสน นายอำเภอบ้านผือ เพื่อร้องเรียนตำรวจยศ ร.ต.อ. ตำแหน่งพนักงานสอบสวน สังกัด สภ.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้วยการรีดไถค่าน้ำมันรถ จากญาติผู้ต้องหา เพื่อนำผู้ต้องหาไปส่งฟ้องศาลจังหวัดอุดรธานี และยืมเงินแล้วไม่จ่ายคืน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา
.

น.ส.สมภาร เล่าว่า พวกตนทำงานรับจ้างกรีดยาง เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2565 ลูกของพวกตนถูกตำรวจสืบสวน สภ.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จับข้อหา “ขับเสพ ” ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนยศ ร.ต.อ. ดำเนินคดี โดยเช้าวันที่ 12 เมษายน 2565 พนักงานสอบสวนจะนำตัวทั้ง 3 คนส่งฟ้องศาลจังหวัดอุดรธานี ระยะทาง 75 กม. พวกตนในฐานะญาติผู้ต้องหา จึงขอโดยสารรถควบคุมผู้ต้องหาของโรงพักไปด้วย เพราะไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งตำรวจก็อนุญาต โดยผู้ต้องหาทั้งหมดนั่งอยู่ห้องควบคุมด้านหลัง พวกตนเบาะหลังแค๊ป เมื่อขับมาถึงตัวอำเภอบ้านผือ ร.ต.อ.คนดังกล่าวบอกว่า น้ำมันรถหมด พวกตนต้องช่วยกันเติมน้ำมันคนละ 500 บาท พวกตนนึกว่าตำรวจพูดเล่น จึงถามกลับไปว่า “หลวงไม่มีงบให้เติมน้ำมันเหรอ” แต่ตำรวจก็ไม่ตอบ เมื่อขับรถเข้าปั๊มน้ำมัน ก็ยังสั่งให้พวกตนออกเงินค่าน้ำมันอีก พวกตนจึงช่วยเติมน้ำมันคนละ 100 บาท รวมเป็นเงิน 300 บาท
.

น.ส.สมภาร เล่าต่อว่า เมื่อขับรถมาถึงตัวเมืองอุดรธานี ร.ต.อ.คนเดิม มาขอยืมเงินพวกตนคนละ 1,000 บาท อ้างว่าจะซื้อเบียร์ไปฝากอัยการ พวกตนมีแค่เงินไปเสียค่าปรับให้ลูก แต่สุดท้ายก็ต้องให้ยืมเพราะว่าตำรวจพาขับรถวนในตัวเมืองอุดรธานี 2 รอบ พวกตนอยากให้เสร็จเรื่องโดยเร็ว ตนเองจึงให้เงินไป 900 บาท น.ส.ดาหวัน 500 บาท และ น.ส.บัวเรียน 500 บาท พอได้เงินก็นำไปซื้อเบียร์ 2 ถาด นำไปสำนักงานอัยการจังหวัดอุดรธานี โดยให้พวกตนรออยู่หน้าสำนักงานอัยการ ส่วนตำรวจขับรถไปด้านหลังนำเบียร์ไปส่ง จากนั้นก็พาไปกินก๋วยเตี๋ยวพวกตนก็ต้องจ่ายอีก เสร็จแล้วจึงขับรถนำผู้ต้องหาไปส่งฟ้องศาลจังหวัดอุดรธานี ซึ่งศาลสั่งปรับคนละ 4,500 บาท ส่วนโทษจำให้รอลงอาญา 1 ปี ในขณะรอเสียค่าปรับ ตำรวจคนดังกล่าวได้อ้างว่าจะไปทำธุระให้พวกตนกลับบ้านเอง ซึ่งก่อนจะเติมน้ำมันให้ก็บอกว่าจะพากลับโรงพักด้วย เท่ากับว่าทิ้งพวกตน
. ขอขอบคุณแหล่งที่มาภาพและข่าว เึดิด น.ส.พ.เสียงภูภาน


น.ส.สมภาร เล่าต่ออีกว่า พวกตนต้องขอโดยสารรถของญาติผู้ต้องหา ซึ่งอยู่ใกล้กันกลับบ้าน โดยจ่ายค่าน้ำมันคนละ 200 บาท รวมเป็น 600 บาท วันต่อมาพวกตนได้โทรศัพท์ไปทวงเงินที่ตำรวจยืมไปซื้อเบียร์ให้อัยการ ก็บ่ายเบี่ยงบอกว่าไม่ได้อยู่โรงพัก ให้มาเอาหลังสงกรานต์ แต่พอลูกชายไปเอาที่โรงพักก็ไม่ยอมให้ พวกตนจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เถ้าแก่สวนยางที่พวกตนทำงานด้วยฟัง หลังทราบเรื่องเถ้าแก่ก็โทรไปทวงเงินให้พวกตน ตำรวจก็ยังไม่ยอมคืนเงินให้ และยังโดนข่มขู่อีก พวกตนเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม โดนเจ้าหน้าที่ของรัฐรีดไถ ยืมเงินแล้วไม่จ่ายคืน เมื่อทวงแล้วยังข่มขู่ ซึ่งพวกตนเป็นประชาชนหาเช้ากินค่ำ รับจ้างกว่าจะได้เงินมา ต้องมาถูกขูดรีดจากเจ้าหน้าที่ จึงมาร้องขอความเป็นธรรมจากนายอำเภอ ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของตำรวจนายดังกล่าวให้ด้วย เพราะหากไปทำกับคนอื่นก็จะเสียใจเหมือนตน
.
นายวิมล สุรเสน นายอำเภอบ้านผือ กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านผือ ได้รับเรื่องไว้เพื่อดำเนินการตามข้อเท็จจริง และให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เพราะชาวบ้านมาร้องเรียนเรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการบริการในหน่วยงาน อ้างว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งผู้ร้องเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ก็จะขอตรวจสอบก่อน และจะได้เรียกหัวหน้าหน่วยที่ผู้ถูกร้องเรียนสังกัดอยู่มาพูดคุย หาวิธีหาทางออก และแก้ไขปัญหาพ.ต.อ.ปรัชญา สนิทวงศ์ชัย ผกก.สภ.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว ยังไม่ได้รับหนังสือจากทางอำเภอ หากได้รับหนังสือ ก็จะต้องมีการสืบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่าเป็นเรื่องจริง ก็จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน สอบถามข้อเท็จจริงจากบุคคลข้างเคียง และจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย โดยปกติผู้ถูกร้องจะเป็นคนเอาใจใส่งานดี แต่จะทำงานเชื่องช้า ไม่กระตือรือร้น แต่ก็ไม่เคยถูกร้องเรียนในการปฏิบัติหน้าที่
ดูคลิปวีดีโอ

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวแนะนำ



ร.ต.สมควร บุญประคม รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี นายดนัย ขาวขำ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เขตอำเภอบ้านผือ นาง อรวรรณ เชื้อกลางใหญ่

วันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2565 เมื่อเวลา 09.00  น. ร.ต.สมควร บุญประคม รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี นายดนัย ขาวขำ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เขตอำเภอบ้านผือ นาง อรวรรณ เชื้อกลางใหญ่ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เขตอำเภอบ้านผือ นายอัมพร นนทพันธ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เขตอำเภอน้ำโสม และเป็นตัวแทน นางเทียบจุฑา ขาวขำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต 8 ลงพื้นที่พบปะให้กำลังใจประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมจับปลาการกุศล และตรวจติดตามผลผลิตโครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ณ บริเวณแหล่งน้ำสาธารณะบ้านหนองแวงใหญ่ ตำบลหนองแวง และหนองแวงน้อย ตำบลกลางใหญ่ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี สำหรับแหล่งน้ำนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับ สำนักงานประมงจังหวัดอุดรธานี นำพันธุ์สัตว์น้ำจืด นานาชนิด มาปล่อยในแหล่งน้ำสาธารณะหลายพื้นที่ในจังหวัดอุดรธานี ตั้งแต่ช่วงปี 2559 เป็นต้นมา สำหรับชนิดสัตว์น้ำที่ประชาชนจับได้ในครั้งนี้ ได้แก่ ปลาช่อน ปลาบู่ ปลาไน ปลาตะเพียน ปลาสวาย ปลานิล ปลายี่สกเทศ ปลานวลจันทร์ กุ้งก้ามกราม ปลากระโห้ และปลากด  ซึ่งมีหลายกลุ่ม หลายครอบครัวได้ปลาน้ำหนักรวมกันมากกว่า 10 กิโลกรัม สร้างความดีใจเป็นอย่างมาก#จังหวัดอุดรธานี #อุดรธานี #อบจ.อุดรธานี #องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี #ท้องถิ่นอุดรธานี #ข่าวอุดรธานี 

 ข่าวที่น่าสนใจ

ไทยบ้านผือนิวส์

บ้านนาสีนวลนิวส์

วราภารณ์นิวส์


 

 


 

 

{fullwidth}>{fullwidth}

Please Select Embedded Mode To Show The Comment System.*

ใหม่กว่า เก่ากว่า

สื่อโฆษณา

บ้านนาสีนวลนิวส์
บ้านนาสีนวลนิวส์
บ้านนาสีนวลนิวส์