"ปารีณา" ซัดชุดว่ายน้ำเวทีมิสแกรนด์ วาบหวิว ข้อถกเถียง ศิลปะหรืออนาจาร
ประเด็นร้อนบนเวทีนางงาม หลังเอ๋-ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ราชบุรี ไปร้องเรียนที่กระทรวงวัฒนธรรม ถึงการจัดการประกวดเวทีมิสแกรนด์ ให้ผู้เข้าประกวดใส่ชุดว่ายน้ำ ที่ดูวาบหวิวและเว้าสูงมากเกินไป ซึ่งขัดต่อจริยธรรมอันดีของไทย จนเป็นที่ถกเถียงกันในกลุ่มคนที่ติดตามนางงาม ถึงความเหมาะสมตามหลักสากล
"ฐิติงพงษ์ ด้วงคง" ผู้เชี่ยวชาญด้านการประกวดนางงาม และนักวิชาการอิสระด้านสตรีศึกษา กล่าวว่า กรณีการไปยื่นหนังสือร้องเรียนถึงความไม่เหมาะสมของการใส่ชุดว่ายน้ำ บนเวทีมิสแกรนด์ ส่วนตัวมองว่า เป็นการแสดงออกทางความคิดเห็น ทำได้ตามวิถีของคนในสังคมประชาธิปไตยต่อการประกวดนางงามตามความเห็น และอุดมการณ์การเมืองความเชื่อของปัจเจกชน แต่ตามขนบการใส่ชุดว่ายน้ำบนเวทีการประกวดนางงาม มีการตีความ และสะท้อนมุมมองออกมาได้ในหลากหลายมุม บ้างมองว่าค้านกับแนวคิดสตรีนิยม แต่บางกลุ่มมองว่าเป็นการเฉลิมฉลองความเป็นหญิง และรู้ในคุณค่าสิทธิของเรือนกาย
การสวมชุดว่ายน้ำในยุคสมัยใหม่ แสดงออกถึงพลังอำนาจของผู้หญิง ที่มีสิทธิบนเรือนกายตนเอง และทำให้เห็นถึงความภาคภูมิใจในร่างกาย ที่ต้องผ่านการดูแลรักษากว่าจะขึ้นเวทีประกวดได้ คือเหตุผลสำคัญที่นางงามใช้แสดงจุดยืนในการสวมใส่ชุดดังกล่าว ที่สามารถทำได้ เพราะสิทธิในร่างกาย คือของนางงาม และเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความสามารถบนเวที
อาจมีทั้งคนที่มองว่า เป็นการปลุกเร้าไม่เหมาะสม และไม่เห็นด้วย แต่คนรุ่นใหม่ คนที่อุดมการณ์เสรีนิยมมองว่า เป็นเรื่องปกติ สามารถทำได้ ในประเทศไทยบ้านเราคนส่วนหนึ่งอาจยังไม่ยอมรับ มองเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องห้ามและขัดกับศีลธรรมอยู่ในชีวิตประจำวัน แต่สิ่งสำคัญคือไม่ว่าเราจะคิดอย่างไรก็ไม่ควรไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น
ประเด็นที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงแนวคิดอนุรักษนิยม โดยการใช้กรอบศีลธรรมเข้ามาตัดสินคุณค่าความเป็นมนุษย์ แต่ไม่มองเพื่อนมนุษย์ด้วยความเห็นอกเห็นใจเท่าไรนัก ยุคนี้วัฒนธรรมไทยไม่ควรถูกแช่แข็งเหมือนในอดีต และมีแค่มิติเดียว วัฒนธรรมการสวมชุดว่ายน้ำตามสมัยนิยม และเทรนด์แฟชั่น ก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทยของคนรุ่นใหม่
ที่ผ่านมาคนไทยรุ่นใหม่มีการยอมรับ และพร้อมผลักดันให้ตนเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นสากลนิยม ที่เวทีนางงามบางเวทีก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่มักถูกคัดค้าน มองว่าไม่ถูกต้องจากคนที่มีอำนาจทางวัฒนธรรมกระแสหลักในรัฐ เพราะเกรงว่าวัฒนธรรมแบบใหม่จะไปกัดกร่อนวัฒนธรรมแบบเดิมที่ตนเชื่อ ซึ่งเป็นการทำให้เครื่องแต่งกายเป็นเครื่องมือทางการเมืองและเป็นการโจมตีชุดอุดมการณ์ที่ต่างออกไป
ขณะที่"วิศเวศ วัฒนสุข" ศิลปินอิสระสาขาจิตรกรรมและผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์การประกวดนางงาม มีความเห็นต่างว่า ถ้ามองในความเป็นจริง ชุดว่ายน้ำที่กองประกวดให้นางงามสวมใส่บางชุดไม่เหมาะสม เพราะกองประกวดให้นางงามเตรียมชุดว่ายน้ำมาเอง แม้หลายคนมองเป็นเรื่องปกติ แต่ชุดที่ใส่ควรมีความเหมาะสม และกองประกวดควรมีการตรวจสอบชุดที่นางงามจะสวมใส่มาก่อนขึ้นเวที
หากมองให้ลึกศิลปะกับอนาจาร มีเส้นกั้นบางๆ เพียงนิดเดียว แต่เมื่อหาบทสรุปไม่ได้ สุดท้ายแล้ว เราก็ต้องยึดบรรทัดฐานความดีงาม ความเหมาะสมของสังคมส่วนรวมเป็นหลัก และหาตรงกลางให้เจอ เพื่อที่จะอยู่ร่วมกันในสังคมที่หลากหลายได้.
